งานชิ้นที่ 2






































ขั้นตอนที่ 1
การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
ขั้นตอนการค้นหาโครงการ       
ชื่อโครงการ
แผนก
1. โครงการพัฒนาระบบต้อนรับ
ต้อนรับ
2. โครงการพัฒนาระบบการยืม คืนสินค้า
ยืม คืนสินค้า
3. โครงการพัฒนาระบบการจัดสินค้า
คลังสินค้า
4. โครงการพัฒนาระบบบัญชี
บัญชี

จำแนกและจัดกลุ่มโครงการที่ค้นหามา
โครงการทั้ง 4 ที่สามารถค้าหามาได้ มีวัตถุประสงค์ของโครงการที่แตกต่างกันดังนี้
โครงการพัฒนาระบบต้อนรับ
มีวัตถุประสงค์เพื่อง่ายต่อการจัดเก็บข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์  ลดความผิดพลาดและความเสียหายของข้อมูล  เพิ่มประสิทธิภาพในการให้ข้อมูลต่าง ๆ แก่ลูกค้า
โครงการพัฒนาระบบการยืม คืนสินค้า
            มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำรายการยืม คืนสินค้าที่มีประสิทธิภาพ  และเกิดการผิดดพลาดน้อยลง
 โครงการพัฒนาระบบการจัดสินค้า
มีวัตถุประสงค์เพื่อมีความง่ายต่อการจัดสินค้าให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการค้นหาและตรวจสอบสินค้า  และง่ายต่อการสั่งซื้อสินค้า

 โครงการพัฒนาระบบบัญชี
มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลด้านการเงินและการบัญชีลงในระบบคอมพิวเตอร์  เพื่อตรวจเช็คบัญชียอดรับ จ่ายของบริษัท    และเพื่อควบคุมการหมุนเวียนของเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อพิจารณาโครงการทั้ง 4 แล้ว พบว่าล้วนให้ประโยชน์กับบริษัท จึงจำเป็นต้องคัดเลือกโครงการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทมากที่สุด ดังนั้นจึงเริ่มต้นด้วยการนำโครงการทั้ง 4 มาเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์ของบริษัทเพื่อค้นหาโครงการที่ตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด และสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของบริษัทได้ดังรายละเอียดจากตารางดังต่อไปนี้

 ตารางเมตริกซ์  (Matrix  Table)
                                      ระบบสารสนเทศ
โครงการพัฒนาระบบ
ต้อนรับ
โครงการพัฒนาระบบยืม คืนสินค้า
โครงการพัฒนาระบบการจัดสินค้า
โครงการพัฒนาระบบบัญชี
วัตถุประสงค์และผลประโยชน์




วัตถุประสงค์ตามแผนกลยุทธ์




1.  ยอดขายเพิ่มขึ้น
X
X


2.  ต้นทุนลดลง
X

X

3.  ลูกค้าเพิ่มขึ้น
X



4.  บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
X
X
X
X
5.  สินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพเท่าเทียมกัน

X
X

6.  สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
X

X

7.  ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน
X
X
X
X
8.  พัฒนาศักยภาพของบริษัท
X
X
X
X
เล็ก




กลาง
X
X
X

ใหญ่



X
1.  เกิดปัญหาในการทำงานน้อยที่สุด


X

2.  สามารถตรวจสอบปัญหาได้ง่าย
X
X
X

3.  สะดวก  รวดเร็ว
X
X
X
X
4.  ลดภาระของแผนกอื่น

X


5.  แต่ละแผนกใช้ข้อมูลร่วมกันได้

X
X
X
6.  จัดทำรายงายได้ตามความต้องการ
X
X
X
X
7.  ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน



X
8.  เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแต่ละแผนก
X
X
X
X

จากการพิจารณาโครงการทั้ง 4 โครงการตามวัตถุประสงค์ ขนาดโครงการและผลประโยชน์ พบว่าโครงการที่ตรงตามวัตถุประสงค์และผลประโยชน์มากที่สุดคือโครงการพัฒนาระบบการจัดสินค้า”  รองลงมาคือ  โครงการพัฒนาระบบต้อนรับ  และโครงการพัฒนาระบบยืม คืนสินค้า  ซึ่งทั้งสองระบบที่กล่าวมานี้  มีวัตถุประสงค์และผลประโยชน์เท่ากัน  รองลงมาเป็น  โครงการพัฒนาระบบบัญชี  ตามลำดับ  บริษัทจึงเลือกที่จะพัฒนาโครงการพัฒนาระบบการจัดสินค้า
การเสนอแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งาน
แนวทางเลือกเพื่อนำระบบใหม่มาใช้งาน โดยจะบอกถึงรายระเอียดของระบบที่จะพัฒนามีดังนี้ ระบบการต้อนรับ ระบบงานยืม คืนสินค้า ระบบงานคลังสินค้า ระบบบัญชี โดยมีแนวทางเลือกจำนวนทั้งสิน 3 ทางเลือก
1.ซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูป
2.จ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ
3.จัดตั้งทีมงานเพื่อพัฒนาระบบงานเอง





การประเมินแนวทางเลือกที่ 1
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 3 ระดับ ดังนี้

น้ำหนักเท่ากับ 4          ช่วงคะแนน   90 – 100      เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้                   ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3          ช่วงคะแนน   79 – 89        เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้                   ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2
         ช่วงคะแนน   50 - 69         เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้                  พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1          ช่วงคะแนน   30 - 49         เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้                  ปรับปรุง

ซึ่งผลจากการประเมิน โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
ทีมงาน/ซอฟต์แวร์
เปรียบเทียบการให้น้ำหนัก (คะแนนเต็ม  12)
ซอฟต์แวร์  1
ซอฟต์แวร์  2
ซอฟต์แวร์  3
หัวหน้าทีมผู้บริหาร
4
3
3
ทีมผู้บริหาร  1
3
4
3
ทีมผู้บริหาร  2
3
4
2
รวม
10
11
8
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
83.33%
91.67%
66.67%
เกณฑ์ที่ได้
ดี
ดีมาก
พอใช้

สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 1
ทางทีมงานได้สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกใช้ซอฟต์แวร์ 2 มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด

ทางเลือกที่ 2 : จ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ (Outsourcing) มีรายละเอียด  ดังตารางต่อไปนี้


การประเมินแนวทางเลือกที่  2
ใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
ทีมงาน/ซอฟต์แวร์
เปรียบเทียบการให้น้ำหนัก  (คะแนนเต็ม  12)
บริษัท เอสบีซี ซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ จำกัด
บริษัท อันลิมิต โซลูชั่น จำกัด
บริษัท คูน ซอฟต์แวร์ จำกัด
หัวหน้าทีมผู้บริหาร
4
2
4
ทีมผู้บริหาร  1
3
2
3
ทีมผู้บริหาร  2
3
2
4
รวม
10
6
11
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
83.33%
50%
91.67%
เกณฑ์ที่ได้
ดี
พอใช้
ดีมาก

สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกบริษัท  คูน  ซอฟต์แวร์  จำกัด  เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด


ทางเลือกที่ 3 : ใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ (In-House Development)มีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้



การประเมินแนวทางเลือกที่  3
-                   ไม่มีการประเมิน เพราะไม่มีการเปรียบเทียบ
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 3
ทางทีมงานได้พิจารณาแล้วว่า มีขีดความสามารถที่จะพัฒนาระบบได้ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการของผู้ใช้งานตามที่จัดทำไว้เป็น TOR โดยใช้ระยะเวลาดำเนินกิจการจำนวนทั้งสิ้น 4 เดือน และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวนเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท (ค่าเงินเดือน ค่าอุปกรณ์ ค่าบำรุงรักษา ค่าล่วงเวลา ค่าเบ็ดเตล็ด เป็นต้น)

เปรียบเทียบแนวทางเลือกทั้งสาม
ผลจากการพิจารณาแนวทางเลือกของทีมงานจากทั้งสามแนวทาง จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของผู้บริหารเพื่อพิจารณาเลือกแนวทางตามที่ได้นำเสนอจากทีมงานพัฒนา พร้อมข้อเสนอแนะในแต่ละแนวทางเลือกหลักทั้งสาม โดยมีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้

ตารางเปรียบเทียบการพิจารณาแนวทางเลือกทั้งสามแนวทาง



ข้อเสนอแนะแนวทางเลือกทั้งสาม
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางใช้ทีมงานเดิมพัฒนาเอง
เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด  นอกจากนี้ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานหรือรองรับการเปลี่ยนแปลงการทำงานในระบบได้ และสามารถคอยกำกับดูแลการทำงานให้ตรงไปตามวัตถุประสงค์ได้อย่างที่วางไว้

ทางทีมงานผู้บริหารได้ทำการเปรียบเทียบ  พิจารณาและให้ข้อเสนอแนะทั้งสามทาง เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ ก่อนที่จะนำเสนอแนวทางเลือกในการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้า โดยมีข้อเสนอแนะดังนี้
                     
แนวทางเลือกที่ 1 การจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Packaged Software)
ข้อดี
ระบบมีความยืดหยุ่นสามารถรองรับความต้องการได้เกือบทั้งหมด รวมทั้งประหยัดเวลาในการติดตั้งด้วย
ข้อเสีย
ราคาสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับแนวทางที่ใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบเอง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท อีกทั้งทีมงานจำเป็นต้องเรียนรู้ในรายละเอียดทั้งหมด ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 20 วัน ส่วนการปรับปรุงและแก้ไขเพิ่มเติมไม่กระทบโครงสร้างหลักของระบบ หากมีการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มในอนาคตจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่างหาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดทำข้อตกลงในสัญญา


แนวทางเลือกที่ 2 การว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ (Outsourcing)
ข้อดี
ระบบมีความยืดหยุ่นสามารถรองรับความต้องการได้เกือบทั้งหมด สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาระบบ
ข้อเสีย
ทีมงานต้องจัดทำ TOR ให้ครบถ้วนสมบรูณ์ที่สุด เพื่อป้องกันการเข้าใจไม่ตรงตามข้อกำหนด ซึ่งการว่าจ้าง Outsourcing มีค่าใช้จ่ายสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับราคาทั้งสามแนวทาง อีกทั้งข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทอาจถูกเปิดเผยได้


แนวทางเลือกที่ 3 ใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ (In-House Development)
ข้อดี
ระบบมีความยืดหยุ่นสามารถรองรับความต้องการได้เกือบทั้งหมด สามารถปรับปรุงแก้ไขระบบได้ตลอดเวลาตามต้องการ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่ำสุดเมื่อเปรียบเทียบทั้งสามแนวทางเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 25,000 บาท นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานกับผู้ใช้งาน
ข้อเสีย
มีระยะเวลาในการดำเนินการมากที่สุดประมาณ 4 เดือน และหากมีงานอื่นที่ต้องทำในระหว่างการพัฒนาระบบ ก็จะทำให้ระยะเวลายืดเยื้อไปอีกจึงจำเป็นต้องมีแผนการรองรับในเรื่องนี้ด้วย
ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร โดยใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) ดังตารางต่อไปนี้
ทีมงาน/ซอฟต์แวร์
เปรียบเทียบการให้น้ำหนักคะแนน
การจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูป  2
การจ้างบริษัท  คูน  ซอฟต์แวร์  จำกัด
ให้ทีมงานเดิมติดตั้งและพัฒนาระบบ
หัวหน้าทีมผู้บริหาร
3
3
4
ทีมงานผู้บริหาร  1
3
3
4
ทีมงานผู้บริหาร  2
3
2
4
รวม
9
8
12
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
75%
66.67%
100%
เกณฑ์ที่ได้
ดี
พอใช้
ดีมาก

สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ  (In-House Development)  เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด  นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว  ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของพนักงานภายในบริษัท  พร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการและมอบหมายแก่ผู้บังคับบัญชาโดยตรงคอยควบคุมดูแลทีมงานพัฒนาให้ดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

แผนการดำเนินงานของโครงการ
แผนการดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้า มีดังต่อไปนี้
1. ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
2. ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
3. ประมาณการใช้งบประมาณ
4. ประมาณระยะเวลาการดำเนินงาน

ทีมงานผู้รับผิดชอบ
ทีมงานผู้รับผิชอบโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้าที่จะได้รับมอบหมาย คือ บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง 4 คน  ซึ่งมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (ผู้บริหารโครงการ) ได้แก่ หัวหน้าแผนกคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนการเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้กับทีมโปรแกรมเมอร์ จัดทำเอกสารของระบบ ทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
2. โปรแกรมเมอร์ ได้แก่ เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์จำนวน 3 คน ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบ รวมทั้งทดสอบโปรแกรมและพัฒนาตัวต้นแบบ (Prototype) เพื่อสอบถามความคิดเห็นและผลการตอบรับ (Feedback) จากผู้ใช้ระบบ



ขั้นตอนที่  2
การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ

เป้าหมาย
นำโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้ามาใช้ภายในบริษัท  เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บสินค้า  รวมทั้งสะดวกต่อการตรวจสอบสินค้า  และเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้า
วัตถุประสงค์
1.            เพื่อการค้นหาข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
2.            เพื่อให้สินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพ  และพร้อมที่จะใช้งาน
ขอบเขตของระบบ
โครงการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้า  ได้มีการจัดทำขึ้นโดยทีมงานของบริษัท  ซึ่งมีการกำหนดขอบเขตของระบบดำเนินงาน  ต่อไปนี้
1.            พัฒนาระบบตรวจสอบสินค้าเสร็จและพร้อมส่งมอบภายในระยะเวลา  เดือน
2.            ต้นทุนและค่าบำรุงรักษาไม่เกิน  25,000  บาท
3.            ใช้ทีมงานในการพัฒนาระบบ  คน  ประกอบด้วย  หัวหน้าทีม  คน  และ  ลูกทีมอีก  คน
ปัญหาของระบบเดิม
1.             สิ้นเปลืองงบประมาณในการสั่งซื้อกระดาษ
2.            สิ้นเปลืองพื้นที่ในการจับเก็บแฟ้มเอกสาร
3.            เอกสารชำรุดและเสียหายได้ง่าย
4.            ตรวจสอบและค้นหาข้อมูลสินค้าได้ยากลำบาก
5.            เสียเวลาในการค้นหา
6.            สินค้าและอะไหล่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ความต้องการของระบบใหม่
1.            จัดเก็บข้อมูลสินค้าได้ง่ายขึ้น
2.            ตรวจสอบข้อมูลสินค้าได้ง่ายขึ้น
3.            ใช้เวลาในการตรวจสอบเร็วขึ้น
4.            ตรวจสอบข้อมูลสินค้าย้อนหลังได้
5.            สามารถนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจเช็คใช้เป็นข้อมูลร่วมกับแผนกอื่นได้
ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนาระบบใหม่
1.            องค์กรสามารถตัดสินใจในการสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าได้
2.            ลดปัญหาในการตรวจสอบสินค้าได้มาก
3.            ลดระยะเวลาในการทำงาน
4.            แผนกอื่นที่นำข้อมูลไปใช้  มีความเชื่อถือในข้อมูลนั้น ๆ

แนวทางในการพัฒนา
การพัฒนาระบบบริษัท HOME C.D. (ประเทศไทย) จำกัด  เป็นการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้ามีแนวทางการดำเนินงานตามวงจรพัฒนาระบบ  System   Development  Life  Cycle  :  SDLC  ในรูปแบบ  Adapted  Waterfall  (b)  :  ซึ่งประกอบด้วย  ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.             การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
2.             การเริ่มต้นและการวางแผนโครงการ
3.            การวิเคราะห์ระบบ
4.            การออกแบบเชิงตรรกะ
5.            การออกแบบเชิงกายภาพ
6.            การพัฒนาและติดตั้งระบบ
7.            การซ่อมบำรุงระบบ
ระบบตรวจสอบสินค้า
การพัฒนาวงจรระบบตรวจสอบสินค้า เพื่อพัฒนาระบบงานปรับปรุงกระบวนการได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลสินค้าคงคลัง  การนำข้อมูลที่ได้มาประเมินการตัดสินใจสั่งซื้อวัตถุดิบ  สินค้า  อุปกรณ์  เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าขึ้น  นอกจากนี้แล้วยังสามารถออกรายงานการตรวจสอบได้ด้วย  เพื่อยืนยันเป็นหลักฐานและสามารถตรวจสอบในภายหลังได้

สรุปการพัฒนาระบบโดยให้หลักของ SDLC.  ขั้นตอนการพัฒนามี 7 ขั้นตอนมีดั้งนี้
1. การค้นหาและเลือกสรรโครงการ (Project Identification and Selection)
การค้นหาและเลือกสรรโครงการ  เป็นขั้นตอนแรกของ  SDLC  เพื่อเลือกโครงการที่มีประโชน์สูงสุดให้กับองค์กร  ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่ได้มีการกำหนดไว้  จากขั้นตอนการค้นหาและการเลือกสรรโครงการ  ผลที่ได้คือ  โครงการที่มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่องค์การมากที่สุด  เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนเริ่มต้นและการวางแผนการดำเนินโครงการ  นักวิเคราะห์และผู้บริหารควรมีความรอบคอบในการเลือกโครงการ  เพราะถ้าเลือกโครงการที่ไม่ตรงกับเป้าหมายขององค์กรแล้วอาจจะเกิดผลเสียตามมาภายหลังได้


สรุป  การทำงานในขั้นตอนการค้นหาและเลือกสรรโครงการ
กิจกรรม
ตัวอย่างแผนภาพและเครื่องมือที่ใช้ทางเทคนิค
1.  ค้นหาโครงการที่เห็นสมควรทำการพัฒนาระบบ
2.  จำแนกและจัดลำดับโครงการ
3.  เลือกโครงการที่เหมาะสมที่สุด
ตารางเมทริกซ์  (Matrix  Table)

2.การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ (Project Initiating and Planning)
หลังจากที่ได้ทำการพิจารณาเลือกโครงการที่จะทำการพัฒนาได้แล้ว  ขั้นตอนนี้จะเป็นการเริ่มต้นจัดทำโครงการเป็นกิจกรรมแรกที่ต้องทำ  ผู้จัดทำหรือผู้บริหารโครงการจะต้องรวบรวมข้อมูลข้อมูลทั้งหมด  จัดตั้งทีมงานร่วมกันค้นหา  กำหนดทิศทางของโครงการ  โดยขึ้นอยู่กับขนาด  ขอบเขต  และความซับซ้อนของโครงการ  เลือกทางเลือกที่ดีที่สุดในการนำระบบงานใหม่มาใช้  จากนั้นทีมงานจะเริ่มวางแผนดำเนินงานโครง  โดยศึกษาความเป็นไปได้  ระยะเวลาในการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมที่กำหนด  เพื่อนำเสนอต่อผู้บริหารพิจารณาอนุมัติในขั้นต่อไป
สรุป  การทำงานในขั้นตอนการเริ่มต้นและวางแผนโครงการ  (Project  Initiating  and  Planning)
กิจกรรม
ตัวอย่างแผนภาพเครื่องมือและเทคนิคที่ใช้
1.  เริ่มต้นโครงการ
2.แนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งาน
3.การวางแผนโครงการ
เทคนิคการรวบรวมสารสนเทศและข้อเท็จจริง  (Fact – Finding and Information Gathering)
-  เทคนิคการวิเคราะห์ต้นทุน

3.การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis)
การกำหนดความต้องการของระบบเป็นการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง  และสารสนเทศต่าง ๆ จากผู้ใช้หรือเอกสาร  เพื่อศึกษาถึงระบบงานเดิม  วิเคราะห์ปัญหา  เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหา
การให้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศนั้น  สามารถทำได้หลายวิธี  เช่น  การสัมภาษณ์  การออกแบบสอบถาม  หรือการสังเกตการณ์  เป็นต้น



 
4.การออกแบบระบบเชิงตรรกะ (Logical Design)
เป็นขั้นตอนในการออกแบบลักษณะการทำงานของระบบ โดยการออกแบบในเชิงตรรกะนี้ยังไม่ได้มีการระบุถึงคุณลักษณะของอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ เพียงแต่กำหนดถึงลักษณะของรูปแบบรายงานที่เกิดจากการทำงานของระบบ ลักษณะของการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบและผลลัพธ์ที่ได้จากระบบ ขั้นตอนการออกแบบเชิงตรรกะจะสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจจะมีการนำแผนภาพที่แสดงถึงความต้องการของผู้ใช้ระบบที่ได้จาก ขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบมากทำการแปลงเพื่อให้ได้ข้อมูลเฉพาะของการออกแบบ (System Design Specification) ที่สามารถนำไปเขียนโปรแกรมได้สะดวกขึ้น เช่น การออกแบบส่วนนำเข้าข้อมูล และผลลัพธ์นั้นต้องอาศัยข้อมูลที่เป็น Data Flow ที่ปรากฏอยู่บนแผนภาพกระแสข้อมูลในขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบ


5.ขั้นตอนการออกแบบระบบเชิงกายภาพ (Physical Design)
เป็นขั้นตอนที่ระบุถึงลักษณะการทำงานของระบบทางกายภาพหรือทางเทคนิค โดยระบุถึงคุณลักษณะของอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ เทคโนโลยี โปรแกรมภาษาที่จะนำมาเขียนโปรแกรม ฐาน ข้อมูล ระบบปฏิบัติการ และระบบเครือข่ายที่เหมาะสมกับระบบ สิ่งที่ได้จากขั้นตอนการออกแบบทางกายภาพนี้จะเป็นข้อมูลเฉพาะของการออกแบบ (System Design Specification) เพื่อส่งมอบให้กับโปรแกรมเมอร์เพื่อใช้เขียนโปรแกรมตามลักษณะการทำงานของระบบที่ได้ออกแบบและกำหนดไว้
ทั้งนี้ในการออกแบบที่นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ ขึ้นอยู่กับระบบขององค์กรว่าจะต้องมีการเพิ่มเติมรายละเอียดส่วนใดบ้าง แต่ควรจะมีการออกแบบระบบความปลอดภัยในการใช้ระบบด้วย โดยการกำหนดสิทธิในการใช้งานข้อมูลที่อยู่ในระบบของผู้ใช้ตามลำดับความสำคัญ เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้นักวิเคราะห์ระบบอาจจะมีการตรวจสอบความถึงพอใจในรูปแบบและลักษณะการทำงานที่ออกแบบไว้ โดยอาจจะมีการสร้างตัวต้นแบบ (Prototype) เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้งาน



6.การพัฒนาและติดตั้งระบบ (System Implementation)
การติดตั้งระบบเป็นขั้นตอนการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานจากระบบเก่าไปเป็นระบบใหม่  โดยจะต้องมีการวางแผนการติดตั้งอย่างรอบคอบ  และพิจารณาถึงวิธีการที่องค์กรจะเลือกใช้  เริ่มต้นจากการพัฒนาระบบ  การทดสอบระบบ  การจัดทำเอกสารระบบ  การฝึกอบรมพนักงาน  ตลอดจนการให้การบริการความช่วยเหลือหลังการติดตั้ง  ซึ่งนักวิเคราะห์ระบบจะต้องหาวิธีการเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานระบบได้อย่างถูกต้อง  มีประสิทธิภาพสูงสุด



7.ขั้นตอนการซ่อมบำรุงระบบ (System Maintenance)
การซ่อมบำรุงเป็นขั้นตอนสุดท้ายของวงจรการพัฒนาระบบ  เป็นขั้นตอนที่มีการปรับปรุง  แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนของโปรแกรม  และขั้นตอนการทำงานของระบบ  เนื่องจากหากระบบมีการซ่อมบำรุงที่ดี  จะช่วยให้องค์กรไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่  ซึ่งจะเกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้

สรุป  การทำงานในขั้นตอนการบำรุงรักษาระบบ  (System  Maintenance)
กิจกรรม
ตัวอย่างแผนภาพ  เครื่องมือ  และเทคนิคที่ใช้
1.  เก็บรวบรวมคำร้องขอให้ปรับปรุงระบบ
2.  วิเคราะห์ข้อมูลคำร้องขอเพื่อการปรับปรุง
3.  ออกแบบการทำงานที่ต้องการปรับปรุง
4.  ปรับปรุงระบบ
แบบฟอร์อมแจ้งข้อผิดพลาดของระบบ

แผนการดำเนินงานของโครงการ
แผนการดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้า  มีดังต่อไปนี้
1.ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
2.ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
3.ประมาณการใช้งบประมาณ
4.ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน

1. ทีมงานรับผิดชอบโครงการ
ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่จะได้รับมอบหมาย คือ บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง 4 คนจะดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังต่อไปนี้
นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ เป็นบุคคลที่มีความรู้ในเรื่องของการทำงานของระบบสารสนเทศที่นำมาใช้ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้ พนักงานหรือทีมโปรแกรม จำทำเอกสารของระบบรวมถึงการทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
-  โปรแกรมเมอร์ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ 3 คน ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลง รวมทั้งทดสอบโปรแกรมของระบบใหม่
ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
            จากข้อมูลดังกล่าวเราอาจจะมีการแบ่งงานออกเป็นทีมหรือว่ามีการระบุหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายหรือแต่ละคนทราบ  เพื่อที่งานจะประสบผลสำเร็จ  ปัจจุบันทางบริษัทได้มีการใช้ระบบเครือข่าย  LAN  อยู่แล้วหรือเครือข่ายที่มีความเร็วสูงกว่านี้  มีรายละเอียดพอเข้าใจดังนี้
1.            เครื่องแม่ข่าย(Server)               จำนวน  เครื่อง
2.            เครื่องลูกข่าย(Workstation)     จำนวน  3   เครื่อง
3.            เครื่องพิมพ์(Printer)                 จำนวน  1  เครื่อง
ปัจจุบันทางบริษัทได้นำเทคโนโลยีหลายอย่างมาใช้ในการบริหารงาน ซึ่งปัจจุบันมีรายละเอียดดังนี้
1.            ระบบโปรแกรม 1 ระบบ
2.            เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและลูกข่ายตามจำนวนที่บริษัทต้องการ
3.            บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการทำงานของโปรแกรม
4.            อุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบ
ตารางการบริหารงาน
ทรัพยากร
จำนวน
บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์
นักวิเคราะห์ระบบ / ผู้บริหารโครงการ
คน
โปรแกรมเมอร์
คน
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เครื่องแม่ข่าย
เครื่อง
เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย
เครื่อง
อุปกรณ์ต่อพ่วง
เครื่อง

ประมาณการใช้งบประมาณ

ต้นทุนที่เกิดขึ้นครั้งเดียว  (one – time costs)
ระบบโครงการตรวจสอบสินค้า
ผู้จัดการ  :
ค่าตอบแทนสำหรับทีมพัฒนาประกอบไปด้วย
          -  นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ  คน
          -  โปรแกรมเมอร์  คน
5,500 บาท
แผนกคลังสินค้า  :
ฝึกอบรมผู้ดูแลระบบ  วัน
700  บาท
ฝึกอบรมพนักงานและผู้บริหารรวม  คน  ใน  วัน
1,500  บาท
จัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์  :
เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้เป็น  Workstation
10,000  บาท
อื่น ๆ
3,300  บาท
ค่าใช้จ่ายระหว่างการดำเนินการ  :
ค่าบำรุงรักษาระบบ
2,500  บาท
จัดซื้อสื่อเก็บข้อมูลสำรอง
1,500  บาท
รวม
25,000  บาท


4. ประมาณการระยะเวลาดำเนินงาน
ระยะเวลาในการดำเนินงานการวิเคราะห์ระบบของบริษัท พี.เค. ไบซิเคิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ต้องการนำระบบมาใช้ในการทำงานในส่วนของระบบตรวจสอบสินค้า  เพื่อความสะดวกในส่วนของการทำงานภายในบริษัท ซึ่งก่อนที่จะได้เริ่มทำงานนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาถึงขั้นตอนต่าง ๆ เป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน คือเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง ตุลาคม 2554 ซึ่งสามารถแสดงรายละเอียดการดำเนินงานได้ดังนี้


 

 รายงานสรุปผลสำหรับผู้บริหาร
จากการศึกษาปัญหาที่พบจากระบบเดิมของบริษัท HOME C.D. (ประเทศไทย) จำกัดส่วนใหญ่บริษัทจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้แล้วบางส่วนแต่บางระบบก็ต้องการระบบที่มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นทางบริษัทจึงต้องมีการจัดทำระบบใหม่ขึ้น เมื่อเราทำการวิเคราะห์ระบบแล้วขั้นตอนต่าง ๆ ที่เราได้ทำก็จะจัดทำรายงานสรุปผลสำหรับผู้บริหารเพื่อให้ทราบขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ซึ่งจะมีขั้นตอนประกอบย่อย ๆ เพื่อความเข้าใจง่าย  3  ด้านดังนี้

1. ความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิค
ทำการศึกษาทั้งทางด้าน Hardware และ Software ของระบบเดิม ปรากฏว่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อบนเครือข่ายแบบ LAN Application ที่ใช้ได้แก่
-  Microsoft Excel
-  Microsoft Word
-  โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่องานคลังสินค้า

2. ความเป็นไปได้ทางด้านการปฏิบัติงาน
ทำการศึกษาทางด้านการปฏิบัติงานของผู้ใช้กับระบบใหม่ที่จะนำมาใช้ จากการสอบถามข้อมูลพบว่า ระบบใหม่มีความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการบริหารงานบุคคลที่มีอยู่เดิม ทั้งยังสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ ซึ่งช่วยลดปัญหาการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปใช้งานได้ และลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนลงได้

3. ความเป็นไปได้ทางด้านระยะเวลา
ระยะเวลาในการดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 ถึง เดือนตุลาคม 2554 ในการดำเนินงานพัฒนาระบบของบริษัท


ขั้นตอนที่ 3
การกำหนดความต้องการของระบบ

การกำหนดความต้องการของระบบ
เมื่อโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบสินค้าได้รับการอนุมัติจากการนำเสนอโครงการในขั้นตอนที่ผ่านมาดั้งนั้นจึงเริ่มต้นด้วยความการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบเดิม ในการกำหนดความต้องการครั้งนี้ทีมงานเลือกใช้วิธีการออกแบบสอบถาม (Questionnaire)
·       ออกแบบสอบถาม (Questionnaire)
บุคคลผู้ตอบแบบสอบถามคือ ผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้าการใช้แบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลในส่วนที่ต้องการพัฒนาเนื่องจากทีมงานสามารถควบคุมหัวข้อคำถามที่ต้องการรายละเอียดได้มากกว่าการสัมภาษณ์ไม่ต้องมีกาจดบันทึก ไม่รบกวนเวลาทำงานของผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้ามากนักสามารถเก็บข้อมูลได้มากตามการตั้งคำถามในแบบสอบถามอีกทั้งผู้ตอบแบบสอบถามจะรู้สึกมีอิสระในการให้ข้อมูล


 ตัวอย่างแบบสอบถาม
บริษัทHome CD. (ประเทศไทย) จำกัด

แบบสอบถาม
โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศตรวจสอบสินค้า
ส่วนที่  1  กรุณาตอบคำถามต่อไปนี้ด้วยการอธิบาย
1. กรุณาอธิบายหน้าที่ของแผนกคลังสินค้าต้องรับผิดชอบ ……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
2.  พนักงานในแผนกคลังสินค้ามีทั้งหมดกี่คน
.............................................................................................................................................................
3.  กรุณาอธิบายขั้นตอนการทำงานภายในแผนกคลังสินค้า
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………...
4.  กรุณาอธิบายรายงานที่ต้องทำเกี่ยวกับข้อมูลการตรวจสอบสินค้า
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
5.  ท่านต้องการข้อมูลใดบ้างในการตรวจสอบสินค้า
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
ส่วนที่  2  กรุณาทำเครื่องหมายหน้าข้อที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง(ตอบได้มากกว่า  1  ข้อ)
1.การจัดสรรพนักงานในแต่ละส่วนของแผนกคลังสินค้ามีความเหมาะสมหรือไม่
................ .เหมาะสม                          ไม่เหมาะสม
2.  ท่านคิดว่าสมควรจัดทำระบบตรวจสอบสินค้าหรือไม่


 



 
.                สมควร                              ไม่สมควร                                                 
3.  ท่านคิดว่าข้อมูลใดบ้างที่สมควรเก็บในระบบตรวจสอบสินค้า  (เลือกได้มากกว่า  ข้อ)


 



 
                   จำนวนสินค้าที่คงเหลือ                        จำนวนสินค้าที่ใช้ไม่ได้


 



 
                   ราคาสินค้า                                         พนักงานผู้ตรวจเช็ค
ข้อมูลและเอกสารของระบบงานเดิมที่รวบรวมได้
จากการที่ทีมงานได้เก็บรวบรวมข้อมูลของระบบเดิม ด้วยวิธีการออกแบบสอบถามสามารถสรุปข้อมูลที่ได้รับดังนี้
1.            หน้าที่ความรับผิดชอบของแผนกคลังสินค้า
2.            จำนวนพนักงานภายในแผนกคลังสินค้า
3.            ขั้นตอนการทำงานภายในแผนกคลังสินค้า
4.            รายงานที่ต้องทำเกี่ยวกับข้อมูลการตรวจสอบสินค้า
5.            ข้อมูลที่ต้องการในการจัดเก็บ  ในการตรวจสอบสินค้า

ข้อมูลระบบงานเดิม
ทางบริษัทใช้กระดาษในการจดบันทึกรายการคลังสินค้าทั้งหมด  ซึ่งเกิดการชำรุดและสูญหายได้ง่าย  นอกจากนี้แล้วบางครั้งพนักงานลืมจดรายการสินค้าจึงทำให้ไม่ทราบรายการสินค้าที่แน่นอน  และยังไม่ทราบวันหมดคุณภาพของสินค้านั้น ๆ ด้วย


2. ความต้องการในระบบใหม่
2.1  บันทึกรายการสินค้าเข้า– ออก
2.2  แจ้งเตือนเมื่อสินค้าในสต็อกเหลืออยู่ไม่ถึง20  เปอร์เซ็นต์
2.3  แจ้งเตือนวันหมดคุณภาพของสินค้า
2.4  ค้นหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็ว
2.5  จัดพิมพ์รายงานสินค้าคงคลังได้
2.6  แสดงสถานะว่าพนักงานคนไหนเป็นคนตรวจสอบสินค้า



3. ตัวอย่างเอกสาร แบบฟอร์มและรายงานของระบบเดิม

บริษัทHome CD.(ประเทศไทย) จำกัด
โทร.  0-2877-7890โทรสาร0-2887-6789เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  2541031441328

เลขที่เอกสาร
ICCN 6402 – 000001
วันที่เอกสาร
29/06/2554
วันที่ตรวจนับ
01/07/2554

 
ตรวจสอบนับสินค้า
รหัสสินค้า
รายการสินค้า
หน่วยนับ
ยอดตรวจนับ
ตรวจนับแล้ว
IC-0001
หนัง HAZRD
แผ่น

IC-0002
ตำนานสมเด็จพระนเรศวร4
แผ่น

IC-0003
HOP(2011)กระต่ายซูเปอร์จัมพ์
แผ่น

IC-0004
SUCK SEEDห่วยขั้นเทพ
แผ่น

IC-0005
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก
แผ่น

IC-0006
Iron Man 3 [2010]
แผ่น

IC-0007
FAST FIVE (2011)
แผ่น

IC-0008
Da Endorphine  Concert
แผ่น

IC-0009
BODYSLAM LIVE IN KRAM
แผ่น

IC-0010
BIG_Mountain
แผ่น














รวม


ผู้ที่บันทึกรายการ
วันที่    /  /
ผู้รับของ
วันที่    /  /
ผู้ตรวจสอบ
วันที่    /  / 
ผู้อนุมัติ
วันที่    /  /





























ขั้นตอนที่ 5






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น